สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดผลิตเหล็กดิบของญี่ปุ่นร่วงลง 5.5% ในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แตะที่ 8.98 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนที่ยอดผลิตเหล็กดิบรายเดือนร่วงต่ำกว่าระดับ 9 ล้านตัน
"เรากำลังจับตาดูระดับสต็อกเหล็กดิบอย่างใกล้ชิด เนื่องจากลดลงใกล้ระดับอันตรายแล้ว" เอย์จิ ฮายาชิดะ ประธานสมาคมเหล็กและเหล็กกล้า กล่าวในการแถลงข่าว
อย่างไรก็ตาม ยอดผลิตเหล็กดิบรายปีเพิ่มขึ้น 1.4% จากปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน แม้ว่ายอดผลิตเหล็กดิบมีแนวโน้มทรงตัวที่ระดับ 110 ล้านตันในปีงบการเงิน 2554/55 ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 เมษายนปีหน้าก็ตาม
ทางสมาคมคาดการณ์ว่าญี่ปุ่นจะส่งออกเหล็กราว 40 ล้านตันแม้ว่าเงินเยนจะแข็งค่า เนื่องจากอุปสงค์จากจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศเศรษฐกิจใหม่อื่นๆ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับความต้องการเหล็กภายในประเทศคาดว่าจะลดลงเนื่องจากมีการส่งออกรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าน้อยลง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์เหล็กในอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยอาจดีดตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่บริษัทต่างๆ มีแนวโน้มว่าจะลงทุนในการสร้างโรงงานและอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน