ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ม.ค.) สัญญาข้าวสาลีพุ่งสูงขึ้นหลังสหรัฐรายงานตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 3.25 เซนต์ แตะที่ 6.5725 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมทะยาน 21 เซนต์ หรือ 2.6% แตะ 8.245 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมีนาคมลดลง 2 เซนต์ แตะ 14.1225 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
กระทรวงเกษตรสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ยอดการส่งออกข้าวสาลีพุ่งแตะ 1.05 ล้านตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2553 ในขณะที่รัฐเซียยังสั่งห้ามการส่งออกข้าวสาลีเนื่องจากภัยแล้งทำให้ธัญพืชได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นยังทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าผู้ซื้อจะให้ความสนใจต่อข้าวสาลีของสหรัฐมากขึ้น เนื่องจากจากเกิดความไม่แน่นอนต่อผลกระทบต่อข้าวสาลีที่ได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมในออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ภาวะน้ำท่วมส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรและเหมืองแร่ของออสเตรเลียได้รับความเสียหายอย่างน้อย 2.5 พันล้านดอลลาร์ โดยสำนักงานวิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ด้านทรัพยากรและการเกษตรของออสเตรเลีย คาดว่าผลผลิตด้านการเกษตร ซึ่งได้แก่ ผลไม้ ผัก ฝ้าย และ ข้าวฟ่าง จะลดลงเป็นมูลค่าอย่างน้อยที่สุด 500 ล้านดอลลาร์ ในปีงบารเงินซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน
นายทิม แฮนนาแกน นักวิเคราะห์จาก PFGBest กล่าวว่า เส้นทางรถไฟที่ใช้ในการขนส่งข้าวสาลีและผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจหยุดดำเนินงานเป็นเวลานานถึง 3 เดือน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก โดยก่อนหน้านี้คาดว่าผลผลิตของออสเตรเลียจะสามารถรองรับความต้องการของตลาดโลกได้ แต่ยอดสต๊อกในปัจจุบันดูเหมือนอยู่ในภาวะตึงตัว