ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 เม.ย.) ราคาสัญญาถั่วเหลืองดีดตัวกลับมาเพิ่มขึ้นหลังอ่อนแรงลง ท่ามกลางการอ่อนค่าลงอย่างมากของเงินสกุลดอลลาร์และราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้าวโพดปรับตัวลดลงในระดับปานกลางและข้าวสาลีปิดขึ้นลงแตกต่างกันหลังเพิ่มขึ้น 3 วันติดต่อกัน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ร่วง 16.5 เซนต์ หรือ 2.18% ปิดที่ 7.405 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 0.25 เซนต์ หรือ 0.03% ที่ 8.2075 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.พุ่ง 15.25 เซนต์ หรือ 1.13% ที่ 13.54 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ตลาดถั่วเหลืองส่วนใหญ่ได้เพิ่มขึ้นจากการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประเมินทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในตระกร้าเงิน ลดลงต่อเนื่องสู่ 74.465 จุด เมื่อวานนี้ จาก 75.038 จุด เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันยังส่งผลให้ถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 3.17 ดอลลาร์ แตะที่ 111.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดข้าวโพดปรับฐานในระดับปานกลางหลังการพยากรณ์อากาศบ่งชี้ว่า จะมีสภาพอากาศที่ปกติมากขึ้นตลอดทั้งพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้มีการเพาะปลูกข้าวโพดอีกครั้ง
รายงานของรัฐบาลระบุว่า การเพาะปลูกข้าวโพดอยู่ที่ 7% ณ วันที่ 17 เมษายน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่า 16% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ สถิติบ่งชี้ว่า การผลิตเอธนอลของสหรัฐชะลอตัวลงเกินคาดการณ์ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งเพิ่มบรรยากาศที่เป็นลบในตลาดข้าวโพด
ในขณะเดียวกัน ถึงแม้ว่าตลาดข้าวสาลีจะได้รับแรงหนุนจากการพยากรณ์สภาพอากาศที่แห้งแล้งในพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีในช่วงฤดูหนาวในพื้นที่ราบในภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้ภาวะผลผลิตลดลงต่อไป แต่ราคาข้าวสาลีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้วและกำลังจะเผชิญกับการปรับฐานทางเทคนิค สำนักข่าวซินหัวรายงาน