สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก พุ่งขึ้น 63 เซนต์ แตะที่ 101.37 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ จากระดับปิดเมื่อคืนนี้ที่ 100.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากผู้นำยุโรปพยายามผลักดันให้กรีซดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดอย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่สองจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยลดความวิตกกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปจะทวีความรุนแรงและส่งผลให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ซบเซาลง
การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.2%
นักลงทุนจับตาดูสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ก.พ. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.1%