ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) สัญญาข้าวสาลีร่วงลงอย่างรุนแรงแรง ในขณะที่ถั่วเหลืองขยับขึ้น และข้าวโพดปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากปัจจัยลบจากภายนอกตลาดหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวลดลง 1.5 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 6.5675 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 18.75 เซนต์ หรือ 2.85% สู่ระดับ 6.3925 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ 0.19% มาอยู่ที่ระดับ 14.195 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
นักวิเคราะห์ในตลาดกล่าวว่า สินค้าโภคภัณฑ์เกษตรได้รับแรงกดดันจากภายนอก หลังตลาดโลหะ น้ำมัน และ ตลาดหุ้น ต่างก็ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง
รายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ระบุว่า เฟดยังไม่มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่ ส่งผลให้ทุกตลาดปรับตัวลดลงและเงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรอ่อนแรงลง
ข้าวสาลีได้รับผลกระทบที่รุนแรงที่สุดจากปัจจัยลบจากภายนอกตลาด และยังได้รับแรงกดดันจากการรายงานสภาพอากาศ โดยการรายงานสภาพอากาศในระยะนี้ระบุว่า อาจมีฝนตกในยุโรปตะวันตกซึ่งจะช่วยให้พืชที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในช่วงก่อนหน้านี้มีภาวะที่ดีขึ้น ในขณะที่การพยากรณ์สภาพอากาศที่หนาวจัดในสหรัฐอาจมีผลกระทบต่อปริมาณผลผลิต
อย่างไรก็ดี ข้าวโพดไม่ได้รับผลกระทบมากเท่ากับข้าวสาลี เนื่องจากเกษตรกรนำข้าวโพดออกมาขายในปริมาณจำกัดและยังคงมีสภาพคล่องสูง
ในทางตรงกันข้าม ถั่วเหลืองได้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความต้องการพยุงราคาเพื่อกระตุ้นให้เกษตรสหรัฐเพาะปลูกถั่วเหลืองมากขึ้น หลังจากที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐรายงานเมื่อเดือนมีนาคมว่า พื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐได้ปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ ถั่วเหลืองยังได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่งจากข่าวที่ว่า อเมริกาใต้มีผลผลิตลดลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน