สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวลดลง 71 เซนต์ แตะที่ 101.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 11.19 น. ตามเวลาในลอนดอนในวันนี้ หลังจีนนำเข้าน้ำมันลดลง และจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของอุปสงค์อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้น
รายงานของสำนักงานศุลกากรจีนที่เปิดเผยผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานระบุว่า ปริมาณการนำเข้าน้ำมันของจีนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5.52 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับ 5.87 ล้านบาร์เรลในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเป็นช่วงก่อนที่โรงกลั่นจะเริ่มปิดซ่อมบำรุงประจำไตรมาส
ขณะเดียวกัน รายงานของสำนักงานระบุว่า ยอดนำเข้าสินค้าโดยรวมของจีนยังขยายตัวเพียง 5.3% ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับปีก่อน ต่ำกว่าระดับ 40% ในเดือนกุมภาพันธ์เป็นอย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศของจีนกำลังชะลอตัวลง
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าอิหร่านตกลงที่จะเจรจาร่วมกับชาติตะวันตกในประเด็นนิวเคลียร์ โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่านยืนยันว่า การเจรจาหารือเรื่องนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกถาวร 5 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และรัสเซีย บวกกับเยอรมนี จะมีขึ้นที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ในวันเสาร์ที่ 14 เมษายน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 เมษายน ในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2%