เวียดนามพิจารณาส่งออกข้าวเพิ่ม หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกโลกสูงขึ้น

          สำนักข่าวเวียดนามนิวส์ รายงานว่า รัฐบาลเวียดนามกำลังพิจารณาลงนามในสัญญาส่งออกข้าวเพิ่มเติมภายในเดือนหน้า เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น
          รัฐบาลเวียดนามได้ระงับการส่งออกข้าวชั่วคราวหลังจากรัฐบาลได้บรรลุเป้าหมายด้านการส่งออกในช่วงต้นปี 2550 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นได้กระตุ้นให้สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณานโยบายส่งออกข้าวเพิ่มเติมอีกครั้ง
          ทั้งนี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าส่งออกข้าวในปริมาณ 4-4.5 ล้านตันในปีนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องเสถียรภาพด้านอาหารภายในประเทศ โดยในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เวียดนามได้ลงนามในสัญญาส่งออกข้าวจำนวน 4.5 ล้านตัน ซึ่งรวมถึงข้าวจำนวน 1.85 ล้านตันที่จะถูกส่งออกไปภายในต้นปีหน้า
          ปัจจุบันเวียดนามส่งออกข้าวที่มูลค่าประมาณ 292-312 ล้านดอลลาร์ต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30-40 ดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม VFA คาดการณ์ว่า ราคาข้าวจะยังคงไต่ระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ข้าวทั่วโลกที่ปรับตัวลดลง
          กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนามคาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวของเวียดนามจะแตะระดับ 36 ล้านตันในปีนี้ โดยในจำนวนนี้คิดเป็นข้าวที่จะใช้เพื่อการส่งออกจำนวน 4.9 ล้านตัน 
          ภูมิภาคเอเชียเป็นตลาดส่งออกข้าวหลักๆของเวียดนาม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 76.6% ของปริมาณข้าวทั้งหมด ขณะเดียวกันเวียดนามได้ส่งออกข้าวไปยังแอฟริกาและสหรัฐในสัดส่วน 14.3% และ 5.9% ตามลำดับ สำนักข่าวซินหัวรายงาน