"ไทย-อินโดฯ-มาเลเซีย" ร่วมประชุมกำหนดมาตรการกู้วิกฤตราคายางตกต่ำ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 29, 2008 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตัวแทนจากไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย สามประเทศผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลกได้เข้าร่วมประชุมกันในวันนี้เพื่อหารือถึงมาตรการกระตุ้นราคายางที่ตกต่ำหนักสุดในรอบ 3 ปี

นายอับดุล ราซิพ ลาติฟฟ์ ประธานฝ่ายบริหารของ International Rubber Consortium Ltd. เปิดเผยว่า "เราได้หารือกันในรายละเอียดถึงวิธีการปรับลดกำลังการผลิตยางพารา หลังจากที่ราคายางร่วงลง 52% จากระดับสูงสุดในรอบ 28 ปีเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา จากวิกฤตสินเชื่อทั่วโลกที่จะกดดันให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยจนส่งผลกระทบให้อุปสงค์ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง

ทั้งนี้ ประเทศไทยและมาเลเซียได้เสนอให้มีการปรับลดจำนวนการปลูกต้นยางพาราเพื่อควบคุมผลผลิต โดยมาเลเซียจะหารือถึงแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่มีรายได้จากการกรีดยางไม่ให้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว ขณะที่อินโดนีเซียเสนอให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราลดความถี่ของวันกรีดยาง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคายางงวดส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โตเกียววันนี้ปรับตัวสูงขึ้น 3.5% แตะที่ 172.4 เยนต่อกิโลกรัม (1,774 ดอลลาร์ต่อตัน) หลังจากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 154.6 เยนต่อกิโลกรัมเมื่อวานนี้

"เราจะเร่งหาข้อสรุปในมาตรการที่ทั้งสามประเทศเสนอขึ้นในที่ประชุมครั้งนี้ก่อนที่รัฐมนตรีจะลงนามเพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป" นายลาติฟฟ์กล่าว

ทั้งนี้ สมาคมผู้กรีดยางแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า ผลผลิตยางของไทยอาจอยู่ที่ระดับ 3.1 ล้านตันในปีนี้ และขยายตัวสู่ระดับ 3.3 ล้านตันในปีหน้า โดยเมื่อปีที่ผ่านมาประเทศไทยมียอดส่งออกยางทั้งสิ้น 2.7 ล้านตัน ด้านอินโดนีเซียได้ปรับลดคาดการณ์ยอดส่งออกลงมาอยู่ที่ระดับ 4% จากที่คาดการณ์ในก่อนหน้านี้ที่ 5-7% ซึ่งยอดส่งออกในปีที่ผ่านมาปรับตัวลดลงแตะ 2.4 ล้านตัน ขณะที่มาเลเซียคาดว่า ยอดการผลิตยางพาราในปีนี้จะอยู่ที่ 1.2 ล้านตัน ซึ่งจะแบ่งสัดส่วนที่ใช้ในการส่งออกจำนวน 990,000 ตัน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ