แกรห์ม เบิร์ช นักวิเคราะห์จากแบล็คร็อค อินเวสเมนท์ เมเนจเมนท์ คาดการณ์ว่า บริษัทเหมืองเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของโลกจะลดการลงทุนลงอีกราว 2 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาโลหะในตลาดโลกตกต่ำลง, ความต้องการจากโรงงานผลิตโลหะลดน้อยลง และการระดมทุนในโครงการใหม่ๆเป็นไปอย่างยากลำบาก
"บริษัท แองโกล อเมริกัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่ของโลก ประกาศลดการผลิตลงกว่าครึ่งหนึ่ง รวมถึงลดขนาดโครงการมูลค่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ริโอทินโต บริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เตรียมลดการลงทุนลง 5 พันล้านดอลลาร์ เราคาดว่าอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของโลกจะลดการลงทุนลงครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าบริษัทเหมืองแร่จะพับโครงการที่ยังไม่ได้เริ่มต้นเอาไว้ก่อน" เบิร์ชกล่าว
ขณะที่จิม เลนนอน นักวิเคราะห์จากแมคควอรี กรุ๊ป กล่าวแสดงความเห็นว่า "บริษัทเหมืองแร่เตรียมลดปริมาณการผลิตลง เนื่องจากความต้องการโลหะทองแดง อลูมินัม และสินแร่เหล็ก สำหรับใช้ในการผลิตรถยนยต์ การก่อสร้าง และการผลิตเหล็กกล้า ปรับตัวลดลงเพราะถูกกระทบจากเศรษฐกิจถดถอย"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาโลหะทองแดง อลูมินัม นิกเกิล และพลาตินัม มีแนวโน้มร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ โดยคาดว่าจะทรุดตัวลงอย่างน้อย 63% ขณะที่ดัชนี Reuters/Jefferies CRB Index ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้สถานะโลหะพื้นฐาน 19 ชนิด ร่วงลง 52% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 3 ก.ค.