ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:น้ำมันดิบปิดบวก $1.74 จากกระแสคาดโอเปคเตรียมลดการผลิตขนานใหญ่

ข่าวต่างประเทศ Saturday January 3, 2009 07:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปค จะดำเนินการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ได้กระหน่ำลดการผลิตน้ำมันไปแล้วกว่า 4 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.74 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 46.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ปิดบวก 4.85 เซนต์ แตะที่ 1.11 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดขยับขึ้นเล็กน้อย 3.8 เซนต์ แตะที่ 1.48 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.เดินหน้าขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

ปีเตอร์ บูเทล นักวิเคราะห์จากบริษัทแคเมรอน แฮนโอเวอร์กล่าวว่า "ปริมาณการซื้อขายในวันนี้ค่อนข้างเบาบาง ท่ามกลางปัจจัยที่กระตุ้นให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปบรรยากาศการซื้อขายในช่วงนี้มักจะเหงียบเหงาเป็นปกติ เนื่องจากนักลงทุนหลายรายยังคงใช้เวลาพักผ่อนช่วงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ยาวไปจนถึงสุดสัปดาห์"

กลุ่มประเทศโอเปคซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันในอัตรา 40% ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลกเตรียมปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันขนานใหญ่ในปีนี้ เพื่อหวังที่จะสกัดกั้นช่วงขาลงของราคาน้ำมัน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การสร้างเสถียรภาพด้านราคาน้ำมันในตลาดโลก

ทั้งนี้ ในปี 2551 ราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นก็ไต่ระดับขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนก.ค. 2551 แต่ต่อมาราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลงท่ามกลางความหวั่นวิตกถึงภาวะอุปสงค์ที่ทรุดตัวลงในยามที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะซบเซา

นอกจากนี้ เหตุการณ์ความรุนแรงในเขตฉนวนกาซ่าระหว่างอิสราเอลและกองกำลังฮามาสของปาเลสไตน์ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ