สัญญาทองคำ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโลกทรุดตัวลงอย่างหนัก
ณ เวลา 14.05 น.ตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ สัญญาทองคำ NYMEX เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.8% แตะที่ 959.05 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเนระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
เอลลิสัน ซู กรรมการผู้จัดการด้านโลหะมีค่าจากสแตนดาร์ด แบงค์ เอเชียกล่าวว่า ในระยะเวลาไม่ถึง 4 เดือน ราคาทองคำทะยานขึ้น 40% เนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงในช่วงที่มูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินหดตัวลงและธนาคารกลางในหลายประเทศทุ่มเงินหลายล้านล้านดอลลาร์เพื่อพยุงกิจการธนาคารพาณิชย์
"เม็ดเงินจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดทองคำ ในขณะที่ตลาดหุ้นยังคงทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนเข้าซื้อทองกันมากขึ้นทั้งในรูปเหรียญทองคำและทองคำแท่ง และ ณ วันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนแลกเปลี่ยนทองคำรายใหญ่ของโลก ถือครองทองคำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 985.86 เมตริกตัน" ซูกล่าวซูยังกล่าวด้วยว่า "สัญญาทองคำทะยานขึ้นฝ่าแนวต้านพื้นฐานที่ระดับ 930-940 ดอลลาร์/ออนซ์มาแล้ว และทันทีที่ทองคำพุ่งขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 950 ดอลลาร์/ออนซ์ ก็มีแรงซื้อทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว"
นอกจากนี้ สัญญาทองคำพุ่งขึ้นเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางในหลายประเทศจะเพิ่มทองคำสำรอง แต่สตีเฟ่น โจว นักวิเคราะห์จากเซี่ยงไฮ้ ตุ้งเหลียน ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า "มีกระแสข่าวแพร่สะพัดเรื่องแบงค์ชาติในหลายประเทศจะเข้าซื้อทองคำ แต่ข่าวดังกล่าวก็เริ่มเงียบไป อาจจะเป็นเพราะธนาคารกลางไม่ต้องการเข้ามาแทรกแซงตลาด" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน