เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า อินเดียซึ่งเป็นผู้ปลูกข้าวรายใหญ่อันดับสองของโลก อาจตัดสินใจยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกข้าวไปขายยังต่างประเทศ หลังจากปริมาณการเก็บเกี่ยวที่เพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณข้าวในสต็อกเพิ่มขึ้นด้วย โดยรัฐบาลจะประเมินปริมาณข้าวในสต็อก ประเมินยอดซื้อข้าวจากเกษตรกร และประเมินซัพพลายภายในประเทศ ก่อนที่จะตัดสินใจยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกข้าวในเดือนหน้า
ผลผลิตข้าวในประเทศอินเดียที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์จะช่วยให้รัฐบาลภายใต้การนำของพรรรคคองเกรสที่เพิ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ทำงานได้อย่างราบรื่นขึ้น และปูทางให้รัฐบาลชุดนี้ตัดสินใจยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกข้าวเนื่องจากราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ออกมาตรการห้ามส่งออกข้าวตั้งแต่ปีที่แล้วหลังจากเกิดการชุมนุมประท้วงภายในประเทศเนื่องจากราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น
บริษัท ฟู๊ด คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทรับซื้อข้าวรายใหญ่สุดของอินเดีย ได้รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 28.6 ล้านตันในฤดูการเก็บเกี่ยวปีนี้ หลังจากรัฐบาลปรับเพิ่มราคาฟลอร์ของข้าว ส่วนปีที่แล้วฟู๊ด คอร์ป รับซื้อข้วในปริมาณ 28.49 ล้านตัน
กระทรวงเกษตรอินเดียคาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตข้าวเปลือกภายในประเทศจะอยู่ที่ 99.37 ล้านตันในรอบปีซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนเม.ย.ปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ที่ 96.69 ล้านตัน ส่วนปริมาณการข้าวสาลีจะอยู่ที่ 77.63 ล้านตัน เทียบกับปีที่แล้วที่ 78.6 ล้านตัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน