เชลล์เตือนราคาน้ำมันพุ่งรุนแรง ชี้บริษัทพลังงานชะลอการผลิตอาจกระทบซัพพลายหดตัว

ข่าวต่างประเทศ Monday June 8, 2009 12:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เจโรน ฟาน เดอร์เวีย ซีอีโอบริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน และเป็นการปรับตัวขึ้นโดยไม่มีการลงทุนใหม่ๆในอุตสาหกรรม พร้อมกล่าวเตือนว่าอุตสาหกรรมพลังงานโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายอันหนักหน่วง และทั่วโลกจำเป็นต้องมีซัพพลายน้ำมันให้เพียงพอต่อดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น

ฟาน เดอร์เวียกล่าวในที่ประชุมน้ำมันและแก๊สแห่งเอเชียที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันนี้ว่า ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นเหตุให้บริษัทพลังงานระงับโครงการลงทุน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้ซัพพลายหดตัวลงและหนุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น โดยนับตั้งแต่ต้นปีพ.ศ.2552 ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นไปแล้ว 52% หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้น และหลังจากกลุ่มโอเปคปรับลดเพดานการผลิตครั้งใหญ่

"เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัว ดีมานด์พลังงานจะสูงขึ้น แต่ซัพพลายจะหดตัวลง เราคาดว่าซัพพลายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะไม่เพียงพอต่อความต้องการที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ได้" ฟาน เดอร์เวียกล่าว

นายอาร์จุน เมอร์ตี นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอีก โดยเมอร์ตีปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันช่วงสิ้นปีพ.ศ.2552 โดยคาดว่าราคาน้ำมันอาจอยู่ที่ 85 ดอลลาร์/ บาร์เรล จากเดิมที่คาดว่าอยู่ที่ 65 ดอลลาร์ และคาดว่าราคาน้ำมันช่วงสิ้นปีพ.ศ.2553 อาจอยู่ที่ 95 ดอลลาร์/บาร์เรล สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ