จีนซึ่งเป็นผู้บริโภคพลังงานมากเป็นอันดับ 2 ของโลก เตรียมขึ้นราคาเชื้อเพลิงสูงสุด 11% ในวันนี้ เพื่อช่วยบริษัทกลั่นน้ำมันแบ่งเบาภาระราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) รายงานว่า ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลจะปรับขึ้นราว 600 หยวน (87.80 ดอลลาร์) ต่อเมตริกตัน ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ ส่วนราคาเชื้อเพลิงเครื่องบินจะปรับขึ้นราว 620 หยวนต่อตัน
ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนพ.ค. ส่งผลให้รัฐบาลสามารถขึ้นค่าน้ำมันเพื่อช่วยบริษัทกลั่นน้ำมันได้อย่างง่ายดายกว่าเดิม โดยซิโนเปค บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของประเทศ กล่าวเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า การกลั่นน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงจะทำให้บริษัทขาดทุน หากราคาน้ำมันยังอยู่เหนือระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและรัฐบาลไม่สามารถทำให้ราคาน้ำมันดิบหยุดปรับตัวสูงขึ้นได้
ในปีนี้สัญญาน้ำมันดิบทะยานกว่า 60% แตะเหนือระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในตลาดนิวยอร์ก หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกใกล้ฟื้นตัวและอุปสงค์น้ำมันจะดีดตัวขึ้น
"ซิโนเปคได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ" แลร์รี่ เกรซ นักวิเคราะห์อิสระจากฮ่องกง กล่าว "การขึ้นราคาเชื้อเพลิงจะช่วยให้ซิโนเปคคลายความกดดันลงได้เยอะ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นซิโนเปคทะยาน 6.4% แตะ 77.45 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ที่ตลาดนิวยอร์ก และขยับขึ้น 0.4% แตะ 5.72 ดอลลาร์ฮ่องกงในตลาดฮ่องกง ซึ่งการประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงมีขึ้นหลังจากที่ตลาดฮ่องกงปิดทำการแล้ว