เนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ คาดราคาน้ำมันดิบมีสิทธิพุ่งเหนือ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากที่ปัจจัยทางเทคนิคบ่งชี้ว่าตลาดดีดตัวขึ้นหลังจากที่ไม่สามารถฝ่าแนวรับไปได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กอร์ดอน แมนนิ่ง นักวิเคราะห์ทางเทคนิค กล่าวว่า โดยมากผู้ซื้อจะเข้าทำการซื้อขายในช่วงที่ตัวชี้วัด MACD (Moving Average Convergence-Divergence) ทะยานเหนือเส้นสัญญาณ (signal line)
"ปัจจัยดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดกำลังจะปรับฐานขึ้น" แมนนิ่งกล่าวกับบลูมเบิร์ก "ตลาดอยู่ในระดับต่ำตลอด 3-4 วันที่ผ่านมา ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่ตลาดจะไม่ปรับตัวลดลงอีก"
ราคาน้ำมันร่วงแตะ 59.52 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. ท่ามกลางสภาพการณ์ที่ไม่แน่นอนว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะดีดตัวขึ้นเมื่อใด แต่ในที่สุดราคาน้ำมันก็ดีดตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.บวก 10 เซนต์ แตะ 65.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 9.10 น.ตามเวลาสิงคโปร์
แมนนิ่งกล่าวต่อไปว่า ราคาน้ำมันดิบต้องเจอแนวรับที่ 73.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาก่อน จึงจะสามารถขึ้นไปถึงระดับ 88 - 100 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ โดยน้ำมันดิบไม่ได้ซื้อขายเหนือระดับ 88 ดอลลาร์/บาร์เรล มาตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.ปีที่แล้ว และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยใดที่บ่งชี้ว่าราคาน้ำมันจะพุ่งถึงระดับดังกล่าวได้ภายในปีนี้