สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 30 เซนต์ แตะที่ 79.25 ดอลลลาร์/บาร์เรล ในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงอย่างหนัก
คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด องค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ดิ่งลงแตะระดับ 47.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 53.1 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงาน โดยจำนวนคนตกงานในสหรัฐมีสูงถึง 7.2 ล้านคนนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนธ.ค.ปี 2550 และอัตราว่างงานในเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 9.8%
ขณะที่ราคาบ้านในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนสิงหาคม แสดงให้เห็นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐเริ่มฟื้นตัวอย่างมั่นคงบ้างแล้ว โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ของสหรัฐซึ่งจัดทำโดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส-ชิลเลอร์ ปรับตัวสูงขึ้น 1% ในเดือนสิงหาคมจากเดือนกรกฎาคม แตะ 144.5 จุด แต่ลดลง 11.4% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 23 ต.ค.ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 671,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 255,000 บาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานจะเปิดเผยในคืนนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 300,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.4%