นักวิเคราะห์ในแวดวงอุตสาหกรรมพลังงานกล่าวแสดงความเห็นว่า การที่รอยัล ดัทช์ เชลล์ พีแอลซี และ ปิโตรไชน่า โค เสนอเงินมูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อซื้อกิจการบริษัท แอร์โรว์ เอเนอร์จี ลิมิเต็ด ของออสเตรเลีย อาจกระตุ้นให้เกิดการเทคโอเวอร์บริษัทผลิตก๊าซจากชั้นถ่านหินอีกหลายแห่งในออสเตรเลีย
โดยนักวิเคราะห์จากบริษัท ฮาร์ลีย์ แอลทีดี ในเมืองเพิร์ธ กล่าวว่า การผลิตก๊าซธรรมชาติจากชั้นถ่านหินเพื่อส่งออกไปยังเอเชียผ่านทางเรือทำให้ได้ทรัพยากรที่มีราคาถูก ดังนั้นบริษัทน้ำมันจากต่างชาติจึงต้องการลงทุนผลิตท่อส่งน้ำมันและโรงงานผลิตก๊าซแอลเอ็นจีในออสเตรเลียเพื่อการส่งออก
ทั้งนี้มีรายงานว่า เฉพาะในรัฐควีนส์แลนด์รัฐเดียว หลายบริษัทซึ่งรวมถึงบีจี กรุ๊ป พีแอลซี และ โคโนโคฟิลลิปส์ ก็เตรียมทุ่มงบประมาณสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในการพัฒนาการผลิตก๊าซมีเทนจากชั้นถ่านหิน ขณะที่แอร์โรว์เองก็กำลังพิจารณาว่าอาจขายหุ้นเพื่อนำเงินมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียมาลงทุนในโครงการ Fisherman’s Landing LNG