สำนักงานสถิติมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซียมีผลผลิตยางธรรมชาติอยู่ที่ 54,530 ตันในเดือนเม.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.9% หรือ 4,467 ตันจากปีก่อนหน้านี้ โดยสวนยางขนาดเล็กถือเป็นผู้ผลิตหลัก คิดเป็นสัดส่วน 95.3% ของผลผลิตยางธรรมชาติทั้งหมด ขณะที่สวนยางขนาดใหญ่มีอัตราการผลิตยางธรรมชาติเพียง 4.7%
สำหรับยอดส่งออกยางธรรมชาติในช่วงเวลาดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 68,452 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 49.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยางประเภท Standard Malaysian Rubber ทำยอดการส่งออกได้สูงถึง 95.2% หรือ 65,147 ตันของยางธรรมชาติที่ส่งออกทั้งหมด
ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดหลักที่รับซื้อยางธรรมชาติจากมาเลเซีย (26.7%) ตามด้วยเยอรมนี (16.4%) สหรัฐอเมริกา (7.8%) เกาหลีใต้ (5.8%) เนเธอร์แลนด์ (4.5%) และบราซิล (4%)
ขณะที่มาเลเซียนำเข้ายางธรรมชาติส่วนใหญ่จากประเทศไทย (61.8%) ตามด้วยพม่า (5.6%) ฟิลิปปินส์ (5.3%) อินโดนีเซีย (5.1%) และเวียดนาม (2.5%) โดยอัตราการใช้ยางธรรมชาติในมาเลเซียปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาคอุตสาหกรรมหลัก 3 กลุ่มที่ใช้ยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าได้แก่ ถุงมือ (68.4%) ตามด้วยอุตสาหกรรมผลิตเส้นยางยืด (10.1%) และอุตสาหกรรมผลิตยางรถยนต์ (8%) โดยทั้งสามภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนการใช้ยางรวมทั้งสิ้น 86.5% หรือคิดเป็นจำนวน 32,542 ตันของปริมาณการใช้ยางธรรมชาติทั้งหมดภายในประเทศ