ตลาดหุ้นลอนดอนปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันอังคาร (13 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาด และสัญญาณการชะลอตัวของตลาดแรงงานอังกฤษ ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,602.92 จุด ลดลง 2.06 จุด หรือ -0.02%
ข้อมูลจากสหรัฐฯ ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. และคาดว่าเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้นในช่วงต่อไปเนื่องจากภาษีนำเข้าใหม่จะทำให้ต้นทุนนำเข้าสูงขึ้น
หลังจากรายงานดังกล่าว นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงเดือนก.ย.
ในฝั่งอังกฤษนั้น ตลาดแรงงานส่งสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง โดยมีการจ้างงานลดลง และการเติบโตของค่าจ้างชะลอตัว ซึ่งอาจทำให้ BoE มั่นใจว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังลดลง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อรับมือผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การลงมติที่แตกออกเป็น 3 ทางของคณะกรรมการกำหนดนโยบาย ทำให้ตลาดลดความคาดหวังว่า BoE จะเร่งลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 1.4% ตามราคาทองแดงที่เพิ่มขึ้น และหุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 1.1% หลังราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับขึ้นมากกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยหุ้นเชลล์ (Shell) ปรับตัวขึ้น 1.2%