ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งจับตาสภาคองเกรสในการผ่านร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้ของสหรัฐ
ณ เวลา 22.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,647.18 จุด ลบ 144.89 จุด หรือ 0.34%
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ระบุว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากเฟดต้องรักษาสมดุลระหว่างแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อเงินเฟ้อ และความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมเดือนมี.ค. เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปีนี้
อย่างไรก็ดี นายบอสติกกล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีผลกระทบมากกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ในช่วงต้นปีนี้
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์เดินทางไปยังรัฐสภาสหรัฐในวันนี้ เพื่อโน้มน้าวสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ปธน.ทรัมป์พยายามผลักดันผ่านสภาคองเกรส
สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายกลุ่มแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายดังกล่าว และอาจลงมติคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ยังคงแสดงความเชื่อมั่นว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะสามารถผ่านการลงมติจากสภาคองเกรส
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการสานต่อกฎหมายปฏิรูปภาษีปี 2560 ซึ่งเป็นผลงานสำคัญของปธน.ทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวภายในวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนวันหยุด Memorial Day ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อปูทางให้วุฒิสภาพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ในเดือนมิ.ย.