ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (22 พ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ตามแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มส่งออก ประกอบกับความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานะการคลังของสหรัฐฯ ที่ย่ำแย่ลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 36,985.87 จุด ลดลง 313.11 จุด หรือ -0.84% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.
หุ้นที่ปรับตัวลงนำโดยกลุ่มขนส่งทางอากาศ กลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน
ตลาดหุ้นโตเกียวถูกกดดันจากภาวะขาลงของทั้งตลาดหุ้น พันธบัตร และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน เงินเยนก็ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังการพบปะหารือระหว่างคัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น และสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
เซอิจิ ซูซูกิ หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดหุ้นจากสถาบันวิจัยโตไก โตเกียวกล่าวว่า "การเทขายสินทรัพย์สามประเภทพร้อมกันในตลาดการเงินสหรัฐฯ ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนมากกว่าผลลัพธ์จากการประชุมทวิภาคี"
บรรดาโบรกเกอร์ระบุว่า หุ้นกลุ่มยานยนต์ซึ่งเน้นการส่งออกถูกเทขายอย่างหนัก เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นจะกระทบผลกำไรจากต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นเงินเยน ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ก็ปรับตัวลงตาม จากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของญี่ปุ่น