ดาวโจนส์เปิดลบกว่า 100 จุด วิตกการค้าโลกตึงเครียดอีก

ข่าวต่างประเทศ Monday June 2, 2025 20:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงเปิดตลาดวันนี้ หลังการค้าโลกกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% นอกจากนี้ สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนก็กลับมาคุกรุ่นขึ้นอีก หลังประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวหาจีนว่าละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้นที่ทั้งสองฝ่ายทำร่วมกันที่กรุงเจนีวา ส่งผลให้จีนออกแถลงการณ์โจมตีกลับ ระบุสหรัฐฯ เป็นฝ่ายที่ไม่ทำตามข้อตกลง พร้อมทั้งประกาศเตรียมตอบโต้แข็งกร้าว ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอดูข้อมูลภาคการผลิต และถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน

ณ เวลา 20.32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,130.33 จุด ลบ 139.74 จุด หรือ -0.33%

กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ในวันนี้ (2 มิ.ย.) เพื่อตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวหาเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า จีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงทวิภาคีเกี่ยวกับการทยอยลดภาษีนำเข้า โดยรัฐบาลจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่า "ไม่มีมูลความจริง" พร้อมประกาศเตรียมใช้มาตรการตอบโต้ที่แข็งกร้าวเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง

ทางการจีนยืนยันว่า จีนได้ดำเนินการตามข้อตกลงร่วมที่เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนพ.ค. ณ กรุงเจนีวาอย่างจริงจังต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐฯ กลับใช้มาตรการกีดกันทางการค้าแบบเลือกปฏิบัติกับจีนหลายประการ โดยหนึ่งในมาตรการล่าสุดของสหรัฐฯ ได้แก่ การระงับการขายซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน การออกข้อแนะนำใหม่ด้านการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเพิกถอนวีซ่านักเรียนจีนบางส่วน ซึ่งจีนมองว่าเป็นการยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและการค้าโดยฝ่ายเดียว และเป็นต้นเหตุของความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

แถลงการณ์ดังกล่าวจากกระทรวงพาณิชย์จีนมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social เมื่อวันศุกร์ กล่าวหาปักกิ่งว่า ละเมิดข้อตกลงยุติสงครามการค้าเป็นเวลา 90 วัน โดยคำกล่าวหาของปธน.ทรัมป์ดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่าการเจรจาการค้ากับจีนประสบภาวะชะงักงัน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ประกาศในระหว่างการปราศรัยเมื่อวันศุกร์ที่โรงงานเหล็กของบริษัทยูเอส สตีล (US Steel) ในเมืองมอน วัลเลย์ รัฐเพนซิลเวเนีย ว่า สหรัฐฯ เตรียมเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ

ทรัมป์กล่าวว่า มาตรการใหม่นี้จะช่วยรักษาความมั่นคงให้อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ และยังเสริมอีกว่าภาษีที่เพิ่มขึ้นจะครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมด้วย โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้

ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จาก S&P Global และดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM)

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลายราย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ โดยเฉพาะเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่มีกำหนดแถลงในวันนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ