ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (6 มิ.ย.) และปิดบวกในรอบสัปดาห์นี้ หลังข้อมูลจ้างงานของสหรัฐฯ บรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,837.91 จุด เพิ่มขึ้น 26.87 จุด หรือ +0.30%
สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกขยับขึ้น หลังข้อมูลจ้างงานเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ ชะลอตัวท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่การเติบโตของค่าจ้างที่ยังแข็งแกร่งช่วยสนับสนุนมุมมองว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ข้อมูลจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนพ.ค.บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยังแข็งแกร่งและยังห่างไกลจากภาวะถดถอย
หุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เป็นหนึ่งในกลุ่มที่หนุนตลาดขึ้นมากที่สุด โดยหุ้นสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) พุ่งขึ้น 2.9%, หุ้นเอชเอสบีซี (HSBC) เพิ่มขึ้น 1% และหุ้นบาร์เคลย์ส (Barclays) เพิ่มขึ้น 1.9%
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ตลาดการเงินโลกผันผวนจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ โดยทรัมป์เพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็นสองเท่า แม้สหราชอาณาจักรได้รับการยกเว้น
ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์เมื่อวันพฤหัสบดี (5 มิ.ย.) หลังความตึงเครียดทางการค้าสะสมมาหลายสัปดาห์ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยต้องรอการเจรจาเพิ่มเติม
ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษมีกำหนดจัดการทบทวนงบประมาณระยะหลายปีครั้งแรกในวันที่ 11 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะจัดสรรงบประมาณกว่า 2 ล้านล้านปอนด์ (2.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับกระทรวงต่าง ๆ ในรัฐบาลใหม่