ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ (18 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินตัวเลขเงินเฟ้อภายในประเทศล่าสุด ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แม้ว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะยังคงฉุดความเชื่อมั่นในตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,843.47 จุด เพิ่มขึ้น 9.44 จุด หรือ +0.11%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวกลับขึ้นมาได้ 1.1% หลังจากปรับตัวลงก่อนหน้านี้
อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนพ.ค.ชะลอตัวลงตามที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้ตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของ BoE จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้
นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกน แอสเซต แมเนจเมนต์กล่าวว่า ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง และแรงกดดันต่อราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษยิ่งระมัดระวังกับการลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากขึ้นในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนส.ค. 2568 เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ผนวกกับหลักฐานที่แสดงว่าตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัวอย่างชัดเจน
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลเข้าสู่วันที่ 6 โดยมีความวิตกเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กองทัพสหรัฐฯ อาจเข้ามามีบทบาทโดยตรง หลังจากที่อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ปฏิเสธข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้อิหร่าน "ยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข"
หุ้นกลุ่มยาและเทคโนโลยีชีวภาพถูกกดดัน โดยหุ้นของบริษัทจีเอสเค (GSK) และหุ้นแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ร่วงลง 2.1% และ 1.1% ตามลำดับ หลังจากทรัมป์ระบุว่า สหรัฐฯ กำลังจะเก็บภาษีอุตสาหกรรมยาในเร็ว ๆ นี้
บรรดานักลงทุนจับตาการตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งประกาศหลังตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการในวันพุธ เพื่อที่จะประเมินแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต
ส่วนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจนั้นบ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหราชอาณาจักรเติบโตช้าลงครึ่งหนึ่งในเดือนเม.ย.