ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (23 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น หลังจากสหรัฐฯ โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของเงินเยนได้ช่วยพยุงตลาดให้ลดช่วงลบลงได้บ้าง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,354.09 จุด ลดลง 49.14 จุด หรือ -0.13%
หุ้นที่ปรับตัวลงนำโดยกลุ่มพลังงานไฟฟ้าและก๊าซ กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก ตลอดจนกลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า
บรรดาโบรกเกอร์ระบุว่า หุ้นปรับตัวลงเนื่องจากการโจมตีอิหร่านของสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์ ได้กระตุ้นความกังวลว่าราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลอิหร่านอาจใช้มาตรการตอบโต้ด้วยการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญ
โบรกเกอร์กล่าวว่า นักลงทุนจำนวนมากต่างวิตกกังวลและใช้กลยุทธ์รอดูสถานการณ์ เนื่องจากอิหร่านยังไม่มีการตอบโต้อย่างชัดเจนต่อการโจมตีของสหรัฐฯ
มาซาฮิโระ ยามากุจิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของธนาคารเอสเอ็มบีซี ทรัสต์ แบงก์ (SMBC Trust Bank) กล่าวว่า "หากช่องแคบฮอร์มุซถูกปิด เศรษฐกิจเอเชียจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงตามไปด้วย"
ขณะเดียวกัน หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวลดลง หลังมีรายงานเมื่อวันศุกร์ (20 มิ.ย.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อผู้ผลิตชิปรายใหญ่ว่ากำลังพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตผ่อนผันที่อนุญาตให้ส่งออกเทคโนโลยีการผลิตชิปไปยังประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม ตลาดสามารถลดช่วงลบลงได้ในภายหลัง จากแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มเครื่องจักรที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก หลังเงินเยนอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ส่งออก เนื่องจากจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อแปลงรายได้จากต่างประเทศกลับเป็นเงินเยน