ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นพุ่งขึ้นอย่างมากวานนี้
ณ เวลา 23.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,978.23 จุด ลบ 110.79 จุด หรือ 0.26%
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 500 จุดวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากการทรุดตัวของราคาน้ำมัน รวมทั้งการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความพึงพอใจต่อสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
"ผมคิดว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกำลังเป็นไปด้วยดี โดยอิสราเอลถอนกำลังออกมาเมื่อวานนี้ พวกเขาทำการโจมตีเพราะเห็นว่ามีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งในทางเทคนิคถือว่าพวกเขามีสิทธิ์ทำได้ แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไป สถานการณ์อาจไม่เป็นผลดีนัก ผมจึงแจ้งพวกเขาให้นำเครื่องบินรบกลับมา และพวกเขาก็ปฏิบัติตาม ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก และขณะนี้สถานการณ์โดยรวมก็กำลังเป็นไปด้วยดี" ปธน.ทรัมป์กล่าวในระหว่างการหารือร่วมกับนายมาร์ค รุตเตอ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวปกป้องอำนาจของเฟดในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า อำนาจของเฟดในการจ่ายดอกเบี้ยให้แก่เงินสดที่ธนาคารต่าง ๆ ฝากไว้กับเฟดนั้น เป็นส่วนสำคัญของกลไกควบคุมอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเป็นเรื่องยากที่จะยกเลิก
"หากคุณต้องการกลับไปสู่ภาวะขาดแคลนทุนสำรอง มันจะเป็นเส้นทางที่ยาวไกล เต็มไปด้วยอุปสรรคและความผันผวน ซึ่งผมไม่แนะนำให้เลือกเส้นทางนั้น และหากเลือกทำจริง ก็จะไม่ได้ช่วยประหยัดเงินเลย" นายพาวเวลกล่าว
ส่วนในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ นายพาวเวลส่งสัญญาณว่า เฟดไม่ได้เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อ และเฟดกำลังจับตาทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณาปรับนโยบาย
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงมุ่งมั่นในการควบคุมเงินเฟ้อ และเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อราคา
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และตลาดแรงงานใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ แต่นายพาวเวลย้ำว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% และผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงไม่มีความชัดเจน