ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ในวันนี้ (30 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้รับแรงหนุนจากการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 40,487.39 จุด เพิ่มขึ้น 336.60 จุด หรือ +0.84%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานไฟฟ้าและก๊าซ กลุ่มสารสนเทศและการสื่อสาร และกลุ่มเหมืองแร่
บรรดาโบรกเกอร์ระบุว่า ในช่วงหนึ่งของการซื้อขาย ดัชนีพุ่งขึ้นกว่า 700 จุด ตามทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) จากความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์กลับเผชิญแรงเทขาย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (29 มิ.ย.) ว่า เขายังไม่มีแผนที่จะยกเลิกกำแพงภาษีรถยนต์ที่เก็บจากญี่ปุ่นในอัตราสูง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการเจรจาเรื่องภาษีระหว่างสองประเทศที่กำลังดำเนินอยู่
มากิ ซาวาดะ นักกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ ให้ความเห็นว่า "แม้ผู้ผลิตรถยนต์น่าจะรวมผลกระทบจากภาษีที่สูงขึ้นไว้ในผลประกอบการแล้ว แต่ความไม่แน่นอนของการเจรจาในอุตสาหกรรมสำคัญนี้ยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้น"
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเน้นการส่งออก ถูกเทขายเป็นบางส่วน เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะทำให้กำไรจากต่างประเทศลดลงเมื่อแปลงกลับเป็นเงินเยน นอกจากนี้ยังมีแรงขายทำกำไรจากนักลงทุน หลังจากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 40,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา