ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดในแดนบวก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เกิดจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ณ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,558.33 จุด เพิ่มขึ้น 100.03 จุด หรือ 0.22%
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 17-18 มิ.ย. ในวันพุธ (9 ก.ค.) โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากคาดว่าผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อนั้นจะไม่มากนักและเป็นผลกระทบชั่วคราว อย่างไรก็ตาม มีกรรมการเฟดเพียงไม่กี่คนที่สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ค.
ในการประชุมวันดังกล่าว คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25-4.50% ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) นั้น เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดลงครั้งละ 0.25% รวม 0.50%
นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ด้านการค้าอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ในสัปดาห์นี้ ปธน.ทรัมป์ได้ส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับ 22 ประเทศ ในอัตรา 20% ถึง 50% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์เปิดเผยผ่านทรูธโซเชียล (Truth Social) ในวันพุธว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตรา 50% ที่เขาประกาศไปก่อนหน้านี้ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. เช่นกัน