ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ในวันศุกร์ (18 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนมองข้ามความกังวลทางเศรษฐกิจและหันไปจับตาทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ขณะที่รายงานผลประกอบการเชิงบวกของหลายบริษัทช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,992.12 จุด เพิ่มขึ้น 19.48 จุด หรือ +0.22% และปรับตัวขึ้น 0.6% ในรอบสัปดาห์นี้
เมื่อต้นสัปดาห์ FTSE 100 ทำสถิติสูงสุดตลอดกาล โดยนักลงทุนไม่กังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ เนื่องจากตลาดอังกฤษได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ค่อนข้างจำกัด ประกอบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า ตลาดหุ้นไม่ได้เคลื่อนไหวตามภาวะเศรษฐกิจเสมอไป แม้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น งบการคลังเผชิญปัญหาขาดดุล และแรงกดดันเงินเฟ้อกลับมาสูงขึ้น แต่ไม่ได้กระทบต่อความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นอังกฤษมากนัก
นับตั้งแต่ต้นปี FTSE 100 ปรับขึ้นราว 10% แซงหน้าดัชนี STOXX 600 ของยุโรปที่เพิ่มขึ้น 7.7% ขณะที่นักลงทุนกำลังประเมินโอกาส 78% ว่า BoE อาจลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนส.ค.
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Burberry พุ่งขึ้น 5.5% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 17 เดือน หลังยอดขายค้าปลีกดีกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งส่งสัญญาณฟื้นตัวของบริษัท ซึ่งช่วยหนุนดัชนีสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของอังกฤษเพิ่มขึ้น 5% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน
หุ้น BP ขยับขึ้น 0.7% หลังประกาศขายธุรกิจพลังงานลมบนบกในสหรัฐฯ ให้กับ LS Power แต่หุ้น GSK ร่วง 4.6% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังคณะที่ปรึกษาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) แนะนำไม่ให้อนุมัติยารักษามะเร็งเม็ดเลือด Blenrep เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงต่อดวงตา