ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ กังวลภาคการผลิตจีนหดตัว-ทรัมป์เดินหน้ารีดภาษีคู่ค้า

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 31, 2025 11:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (31 ก.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับผลกระทบจากภาคการผลิตของจีนที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่สหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากเกาหลีใต้และอินเดีย

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 24,906.39 จุด ลดลง 270.54 จุด หรือ -1.07%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,591.26 จุด ลดลง 24.46 จุด หรือ -0.68% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ 41,020.91 จุด เพิ่มขึ้น 366.21 จุด หรือ +0.90%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.42% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียขยับลง 0.1%

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวลงแตะระดับ 49.3 ในเดือนก.ค. จากระดับ 49.7 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 49.7

ทั้งนี้ ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 4 สะท้อนให้เห็นว่าการส่งออกที่เคยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งก่อนที่สหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้านั้น เริ่มอ่อนแรงลง ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศยังคงซบเซา

ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการลดลงสู่ระดับ 50.1 ในเดือนก.ค. จากระดับ 50.5 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50.3

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ซึ่งรวมถึงรถยนต์ ในอัตรา 15% โดยแม้ว่าจะลดลงจากระดับ 25% ที่เขาได้ประกาศไว้ในช่วงต้นเดือนก.ค. แต่ราคาหุ้นกลุ่มบริษัทรถยนต์ในเกาหลีใต้ดิ่งลงเช้านี้ โดยหุ้น Kia Corp ร่วงลง 5.25% และหุ้น Hyundai Motor ร่วงลง 3.48%

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียในอัตรา 25% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกีดกันทางการค้าที่มุ่งเป้าหมายไปยังประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ