ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (1 ส.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อปรับแก้มาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่ใช้กับหลายสิบประเทศ โดยกำหนดอัตราภาษีใหม่ตั้งแต่ 10% ถึง 41%
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 40,914.66 จุด ลดลง 155.16 จุด หรือ -0.38%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 24,727.78 จุด ลดลง 45.55 จุด หรือ -0.18% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,566.55 จุด ลดลง 6.66 จุด หรือ -0.19%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลง 3.4% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 1%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังหลังจากที่ไฉซิน/เอสแอนด์พี โกลบอล (Caixin/S&P Global) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 49.5 ในเดือนก.ค. จากระดับ 50.4 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.4
ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว เนื่องจากธุรกิจใหม่ ๆ มีการขยายตัวช้าลง ซึ่งส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิตของจีนชะลอการผลิต
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 108,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.2% ในเดือนก.ค. จากระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย.