ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (6 ส.ค.) สวนกระแสความกังวลเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐฯ หลังบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งประกาศผลประกอบการแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลลงได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 40,794.86 จุด เพิ่มขึ้น 245.32 จุด หรือ +0.60%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำตลาดได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน
ในช่วงเปิดตลาด นิกเกอิได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิป หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาเตรียมจะประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ "ในสัปดาห์หน้าหรือราว ๆ นั้น"
อย่างไรก็ตาม ตลาดพลิกกลับมาเป็นบวกได้ในเวลาต่อมา โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในประเทศ โดยเฉพาะหุ้น Mitsui Fudosan ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ และบริษัทอื่น ๆ ที่ต่างพากันรายงานตัวเลขกำไรรายไตรมาสที่ออกมาดีเกินคาด
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มยานยนต์ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาเช่นกัน หลังจากรายงานผลประกอบการล่าสุดบ่งชี้ว่าผลกระทบจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ไม่ได้รุนแรงอย่างที่กลัวกัน อย่างไรก็ดี โบรกเกอร์ชี้ว่า บางบริษัท เช่น Mazda Motor Corp. ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของตนลง
มาโกโตะ เซนโกคุ นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นอาวุโสจากสถาบันวิจัยโตไก โตเกียว กล่าวว่า "ผลประกอบการล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ผลกระทบจากกำแพงภาษีอย่างน้อยก็ในตอนนี้ ยังอยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้ได้ ซึ่งช่วยให้ตลาดผ่านพ้นช่วงที่เลวร้ายมาแล้ว"