ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ณ เวลา 19.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 129 จุด หรือ 0.29% สู่ระดับ 44,365 จุด
ราคาหุ้นของบริษัท แมคโดนัลด์ คอร์ป พุ่งขึ้นกว่า 4% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2/2568 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ปรับตัวลง 0.14% ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหม่ต่อชิปและเซมิคอนดักเตอร์ในเร็ว ๆ นี้ โดยอาจเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า ยาที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐ อาจถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงถึง 250% ซึ่งถือเป็นอัตราภาษีสูงสุดที่ปธน.ทรัมป์ขู่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจนถึงขณะนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตามาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ต่อประเทศคู่ค้าของสหรัฐ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.)
นอกจากนี้ สหรัฐจะเริ่มดำเนินมาตรการปราบปรามสินค้าที่มีการสวมสิทธิ์ หรือส่งผ่าน (transshipment) ทางประเทศที่ 3 โดยจะมีการบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้เช่นกัน ซึ่งตามคำสั่งฝ่ายบริหารที่ปธน.ทรัมป์ลงนามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หากศุลกากรสหรัฐพบว่าสินค้าที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐเป็นสินค้าสวมสิทธิ์ สินค้าดังกล่าวจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 40% รวมทั้งบทลงโทษอื่น ๆ