ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ณ เวลา 20.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,119.49 จุด บวก 7.75 จุด หรือ 0.02%
ราคาหุ้นของบริษัท แมคโดนัลด์ คอร์ป พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2/2568 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ปรับตัวลง 0.14% ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหม่ต่อชิปและเซมิคอนดักเตอร์ในเร็ว ๆ นี้ โดยอาจเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า ยาที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐ อาจถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงถึง 250% ซึ่งถือเป็นอัตราภาษีสูงสุดที่ปธน.ทรัมป์ขู่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจนถึงขณะนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตามาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ต่อประเทศคู่ค้าของสหรัฐ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.)
นอกจากนี้ สหรัฐจะเริ่มดำเนินมาตรการปราบปรามสินค้าที่มีการสวมสิทธิ์ หรือส่งผ่าน (transshipment) ทางประเทศที่ 3 โดยจะมีการบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้เช่นกัน ซึ่งตามคำสั่งฝ่ายบริหารที่ปธน.ทรัมป์ลงนามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หากศุลกากรสหรัฐพบว่าสินค้าที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐเป็นสินค้าสวมสิทธิ์ สินค้าดังกล่าวจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 40% รวมทั้งบทลงโทษอื่น ๆ