ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 300 จุด หลุดแนว 44,000 จุด หลังพุ่งขึ้นในช่วงแรก
ณ เวลา 23.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 43,884.22 จุด ลบ 308.90 จุด หรือ 0.70%
ราคาหุ้นของบริษัท อินเทล ร่วงลงกว่า 2% ในวันนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความใน Truth Social เรียกร้องให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท อินเทล ลาออกจากตำแหน่งโดยทันที
"ซีอีโอของอินเทลเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างมาก และเขาจะต้องลาออกโดยทันที ไม่มีทางอื่นในการแก้ไขปัญหานี้ ขอบคุณที่ให้ความสนใจในปัญหานี้!"นายทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน รัฐอาร์คันซอ ตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนายลิป-บู ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท อินเทล กับบริษัทจีนหลายแห่ง
นอกจากนี้ นายตันยังมีประวัติอาชญากรรมเกี่ยวข้องกับบริษัท คาเดนซ์ ดีไซน์ ที่เขาเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารจนถึงปี 2564
ทั้งนี้ นายคอตตอนเขียนจดหมายถึงประธานบอร์ดของอินเทลเพื่อแสดงความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท และผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ
"อินเทลมีหน้าที่เป็นผู้ดูแลเงินภาษีของชาวอเมริกันอย่างมีความรับผิดชอบ และต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความมั่นคง ความเกี่ยวข้องของคุณตันทำให้เกิดคำถามว่า อินเทลจะสามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันเหล่านี้ได้หรือไม่" ข้อความในจดหมายระบุนอกจากนี้ นายคอตตอนตั้งคำถามว่า บริษัทได้ระบุให้นายตันขายหุ้นหรือถอนตัวจากการมีส่วนร่วมในบริษัทผลิตชิปที่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน หรือองค์กรที่น่ากังวลอื่น ๆ ในจีนหรือไม่
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในเดือนเม.ย.ว่า นายตันได้ลงทุนในบริษัทจีนหลายแห่ง รวมทั้งบริษัทบางแห่งที่เกี่ยวข้องกับกองทัพของจีน ทั้งโดยตรงและผ่านกองทุนร่วมลงทุน
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในช่วงแรก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าชิปและเซมิคอนดักเตอร์สูงถึง 100% แต่จะยกเว้นสำหรับบริษัทที่มีการผลิตหรือมีแผนที่จะผลิตในสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงหนุน หลังบริษัท แอปเปิ้ล อิงค์ ประกาศการลงทุนครั้งใหม่วงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐ ซึ่งจะทำให้การลงทุนรวมของแอปเปิ้ลในสหรัฐตลอด 4 ปีข้างหน้าเพิ่มเป็น 6 แสนล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความใน Truth Social ในวันนี้ แสดงความยินดีที่เงินจากการเก็บภาษีศุลกากรจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์กำลังหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐ ขณะที่มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 226,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 219,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 500 ราย สู่ระดับ 220,750 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง พุ่งขึ้น 38,000 ราย สู่ระดับ 1.97 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564