ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ (11 ส.ค.) ขณะที่หุ้นบริษัทชิปรายใหญ่ปรับตัวลงท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าล่าสุดของสหรัฐฯ ก่อนครบกำหนดเส้นตายการระงับเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในวันพรุ่งนี้ (12 ส.ค.)
ณ เวลา 19.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 127 จุด หรือ 0.29% สู่ระดับ 44,405 จุด
หุ้นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia ร่วง 1% ในช่วงก่อนเปิดตลาด และหุ้น Advanced Micro Devices (AMD) ร่วงลง 2%
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า บริษัทเหล่านี้ตกลงจะมอบรายได้ 15% จากการขายชิปคอมพิวเตอร์ขั้นสูงให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เริ่มออกใบอนุญาตให้ขายชิป H20 ของ Nvidia ไปยังจีน
การขายเซมิคอนดักเตอร์เป็นประเด็นสำคัญในข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ลงนามเมื่อต้นปีนี้ และอาจกดดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศก่อนถึงเส้นตายข้อตกลงในวันอังคารนี้
บรรดานักลงทุนยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับอัตราภาษีสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศไว้
นักลงทุนคาดว่า การเปลี่ยนแปลงล่าสุดที่เกิดขึ้นในธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และสัญญาณความอ่อนแอของตลาดแรงงาน อาจทำให้เฟดหันมาใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นความหวังหลักในตลาด
ส่วนรายงานเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคที่จะออกมาในวันอังคารนี้ จะเป็นตัวกำหนดความชัดเจนให้กับนักลงทุน ซึ่งปัจจุบันคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 0.60% ภายในเดือนธ.ค.ปีนี้
การประกาศผลประกอบการที่ดีกว่าคาดการณ์ยังช่วยคลายความกังวลในตลาด และผลสำรวจรายเดือนของธนาคารแบงก์ออฟอเมริกา (BofA) พบว่า การถือครองหุ้นกลุ่มเมกะแคปเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอีกครั้ง
สำหรับข่าวด้านภูมิรัฐศาสตร์นั้น ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียคาดว่าจะพบปะกันในวันศุกร์นี้ (15 ส.ค.) เพื่อเจรจายุติสงครามในยูเครน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบด้วยเช่นกัน