ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในวันนี้ (15 ส.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2568 ที่ขยายตัวดีเกินคาด ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 43,378.31 จุด เพิ่มขึ้น 729.05 จุด หรือ +1.71%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่มธนาคาร กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของกลุ่มเหล็ก และกลุ่มประกันภัย
โบรกเกอร์ระบุว่า ตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2/68 ขยายตัว 1.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งนับเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 นอกจากนี้ ตัวเลขของไตรมาสก่อนหน้ายังได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นเติบโต จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ว่าจะหดตัว
"ข้อมูล GDP ช่วยขจัดความกังวลว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบ (จากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ) ทำให้นักลงทุนรู้สึกโล่งใจและเข้าซื้อหุ้น" มาซาฮิโระ ยามากูจิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของ SMBC Trust Bank กล่าว
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากความคาดหวังว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ญี่ปุ่นกำลังรับมือกับภาวะเงินเฟ้อได้ช้าเกินไป ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลดีต่อผลกำไรของธนาคาร
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นของญี่ปุ่นทำสถิติปิดสูงสุดใหม่ถึง 3 ครั้งในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลที่ลดน้อยลงเกี่ยวกับผลกระทบจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ