ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (15 ส.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงินขนาดใหญ่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และรัสเซีย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 553.56 จุด ลดลง 0.31 จุด หรือ -0.06%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,923.45 จุด เพิ่มขึ้น 53.11 จุด หรือ +0.67%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,359.30 จุด ลดลง 18.20 จุด หรือ -0.07% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,138.90 จุด ลดลง 38.34 จุด หรือ -0.42%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดปรับตัวลง หลังขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือนในช่วงต้นการซื้อขาย
อย่างไรก็ตาม ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สอง โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนก.ย. และผลประกอบการบริษัทที่แข็งแกร่ง
ความสนใจของนักลงทุนอยู่ที่การพบกันระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียที่รัฐอะแลสกา โดยนักลงทุนหวังว่าการประชุมอาจนำไปสู่การแก้ไขความขัดแย้งในยูเครน
ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะไม่เจรจาแทนยูเครน และจะให้กรุงเคียฟเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนดินแดนกับรัสเซียหรือไม่
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า หากมีความคืบหน้าในการลดความตึงเครียด ก็จะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค กลุ่มก่อสร้าง กลุ่มวัสดุ และหุ้นเติบโต ซึ่งถูกลงทุนค่อนข้างน้อยในยุโรป
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอวกาศและการป้องกันประเทศลดลง 0.8% ก่อนการประชุมสุดยอด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 0.6% และฉุดดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลง
หุ้น ASML บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก ลดลง 1% หลัง Applied Materials บริษัทคู่แข่งในสหรัฐฯ ปรับลดคาดการณ์กำไรไตรมาส 4 เนื่องจากความต้องการในจีนอ่อนแอและผลกระทบจากความไม่แน่นอนด้านภาษี โดยบริษัทดัตช์รายนี้เคยเตือนลักษณะเดียวกันในกลางเดือนก.ค. ว่าอาจไม่บรรลุเป้าหมายการเติบโตปี 2569
หุ้นชิป อาทิ BE Semiconductor และ ASMI ร่วงลง 3.3% และ 2.8% ตามลำดับ
แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด 0.8% โดยหุ้น Antofagasta เพิ่มขึ้น 1.2% หลังรายงานกำไรหลักครึ่งปีเพิ่มขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี และช่วยหนุนหุ้นคู่แข่งรวมถึง Anglo American
หุ้นเฮลท์แคร์ซึ่งปีนี้ปรับตัวลงจากความไม่แน่นอนเรื่องภาษียาของทรัมป์ ฟื้นตัวขึ้นได้ และดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์บวกติดต่อกัน 7 วัน ทำสถิติยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Pandora ร่วง 18.4% หลังผู้ผลิตเครื่องประดับเดนมาร์กแจ้งยอดขายในยุโรปอ่อนแอ โดยเป็นการลดลงในหนึ่งวันมากที่สุดในรอบ 7 ปี
หุ้น Standard Chartered ร่วง 7.2% หลังสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบธนาคารเรื่องข้อกล่าวหาในการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร