ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าลบในวันนี้ (19 ส.ค.) หลังทำสถิติสูงสุดระหว่างวันครั้งใหม่ได้ในช่วงเช้า โดยได้อานิสงส์จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นตามทิศทางหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่บวกขึ้นเมื่อวานนี้ แต่การทะยานขึ้นในภาพรวมกลับถูกสกัดไว้ด้วยแรงเทขายเพื่อทำกำไร
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 43,652.32 จุด ลดลง 61.99 จุด หรือ -0.14%
ตลาดในระยะแรกได้รับปัจจัยหนุนจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มยานยนต์เพื่อการส่งออก อันเนื่องมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง ซึ่งเป็นผลดีต่อผลกำไรของบรรดาผู้ส่งออกเมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินสกุลเยน
นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนยังได้รับอานิสงส์จากความคาดหวังว่าความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์มีแนวโน้มจะคลี่คลายลง ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้แสดงความหวังเมื่อวันจันทร์ (18 ส.ค.) ว่า ตนและประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน จะได้มีการเจรจาหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียในเร็ววันนี้ เพื่อหาทางยุติสงครามในยูเครน
อย่างไรก็ตาม ตลาดโดยรวมตลอดภาคเช้ายังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่แน่ชัด เนื่องด้วยนักลงทุนยังคงเฝ้าระวังต่อภาวะที่ตลาดอาจร้อนแรงเกินเหตุ ภายหลังจากที่ดัชนีนิกเกอิได้ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา