ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือนในวันอังคาร (19 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินโอกาสในการยุติสงครามในยูเครน หลังจากการหารือที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ระหว่างผู้นำสหรัฐฯ ยูเครน และยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 557.81 จุด เพิ่มขึ้น 3.80 จุด หรือ +0.69%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,979.08 จุด เพิ่มขึ้น 95.03 จุด หรือ +1.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,423.07 จุด เพิ่มขึ้น 108.30 จุด หรือ +0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,189.22 จุด เพิ่มขึ้น 31.48 จุด หรือ +0.34%
ตลาดได้รับแรงหนุนจากความหวังในการเจรจาเพิ่มเติมเพื่อหาทางออกให้กับการยุติสงครามในยูเครน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะรับประกันความมั่นคงแก่ยูเครนในการประชุมสุดยอดกับผู้นำยูเครนและยุโรป แม้รายละเอียดยังไม่ชัดเจน และทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่ากำลังมีการจัดเตรียมการประชุมสุดยอด 3 ฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ รัสเซีย และยูเครน
นอกจากนี้ ทรัมป์ระบุว่า เขาหวังว่าปูตินจะเดินหน้ายุติสงคราม แต่ก็ยอมรับว่าผู้นำเครมลินอาจไม่ต้องการทำข้อตกลง
หุ้นกลุ่มกลาโหมของยุโรปร่วงลง 2.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวแย่ที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน และกลายเป็นกลุ่มที่ถ่วงดัชนี STOXX 600 มากที่สุด โดยหุ้น Leonardo ของอิตาลีดิ่งลง 10.2% ขณะที่หุ้น Hensoldt และหุ้น Renk Group ร่วงลง 9.5% และ 8.3% ตามลำดับ ส่วนหุ้น Rheinmetall ร่วงลง 4.9%
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ตลาดปรับตัวขึ้นอย่างระมัดระวัง ซึ่งสะท้อนมุมมองว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อตกลงสันติภาพ แม้ยากที่จะกำหนดรูปแบบที่แน่ชัด
ด้านหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยหุ้นกลุ่มยานยนต์พุ่งขึ้น 2.4% และหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มบวก 1.6% ขณะที่หุ้นสินค้าหรูหราพุ่งขึ้นแรง โดยหุ้น Moncler พุ่งขึ้น 4.9% และหุ้น Burberry ทะยานขึ้น 5.1%
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น JD Sports ของอังกฤษพุ่งขึ้น 6.9% หลังจากธนาคารดอยซ์แบงก์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 100 เพนซ์ จากเดิมที่ 85 เพนซ์
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นเกือบ 10% แล้วในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการใช้จ่ายที่สูงขึ้นในกลุ่มประเทศสมาชิกยูโรโซน การย้ายเงินลงทุนเข้าสู่สินทรัพย์ยุโรปในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
การประชุมประจำปีที่แจ็กสันโฮลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็จะเป็นอีกประเด็นที่สำคัญที่นักลงทุนจะจับตาสัญญาณจากเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ เรื่องนโยบายการเงิน แม้ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ก็ตาม