ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (22 ส.ค.) ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งติดต่อกันเป็นวันที่สี่ ตามแรงหนุนจากหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้น หลังจาก เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,321.40 จุด เพิ่มขึ้น 12.20 จุด หรือ +0.13%
นักลงทุนทั่วโลกขานรับในเชิงบวกต่อถ้อยแถลงของพาวเวลในการประชุมที่แจ็กสันโฮล ซึ่งส่งสัญญาณว่า มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยสุนทรพจน์ของเขาได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์ และท่ามกลางความคาดหวังของตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงิน หลังจากมีสัญญาณอ่อนแอจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ
หุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยบวก 0.5% ขณะที่หุ้น Standard Chartered พุ่งขึ้นกว่า 4% หลังได้รับคำตัดสินที่เป็นผลดีจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ในคดีแพ่งที่ยืดเยื้อมานาน
ดัชนีหุ้นกลุ่มผู้ประกอบการก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2% ขณะที่กลุ่มสินค้าหรูหราและกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วน พุ่งขึ้น 2.9% ส่วนกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 0.7% หลังราคาน้ำมันขยับขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ต่างกล่าวโทษกันเรื่องกระบวนการเจรจาสันติภาพที่ชะงักงัน
ผลสำรวจเมื่อวันศุกร์ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคอังกฤษมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนนี้ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดดอกเบี้ย แต่ยังคงกังวลต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นภาษี
หุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มผู้บริโภคอย่าง Tesco, J Sainsbury และ Unilever ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยดัชนีหุ้นกลุ่มผู้บริโภคลดลง 0.7% แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 3.4% ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยผู้บริโภคอังกฤษมีมุมมองเชิงบวกต่อรายได้ภาคครัวเรือนมากที่สุดในรอบ 12 เดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชาวอังกฤษเริ่มรับรู้ถึงประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยของ BoE