ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันนี้ (26 ส.ค.) หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนสูงถึง 200% หากจีนไม่ส่งออกแม่เหล็กให้กับสหรัฐฯ พร้อมกับเตือนว่าประเทศใดที่เก็บภาษีดิจิทัลกับบริษัทอเมริกัน อาจถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากร นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเรื่องความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังทรัมป์สั่งปลด ลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด
ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 25,524.92 จุด ร่วงลง 304.99 จุด หรือ -1.18%
หุ้น Haidilao ปรับตัวลง 2.8%, หุ้น Innovent Biologics ร่วงลง 4.1%, หุ้น China Unicom ลดลง 3.6%, หุ้น SMIC ลดลง 3.3% และหุ้น Dongfeng Motor ลบ 1.7%
สถานการณ์ทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ตึงเครียดขึ้น หลังจากที่ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกับอี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ (25 ส.ค.) ว่า "จีนต้องส่งแม่เหล็กให้เรา ถ้าพวกเขาไม่ให้แม่เหล็ก เราก็ต้องเก็บภาษี 200% หรืออะไรทำนองนั้น"
คำขู่ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการพักรบทางการค้าซึ่งสหรัฐฯ และจีนได้ตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าระหว่างกันลงเหลือ 55% และ 32% ตามลำดับ โดยการสงบศึกชั่วคราวนี้จะหมดอายุในช่วงกลางเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลกับการที่ทรัมป์สั่งปลด ลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด โดยมีผลในทันที หลังจากที่ บิล พูลที ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินเพื่อการเคหะของรัฐบาลสหรัฐฯ (FHFA) ระบุว่า คุกได้กู้เงินจาก FHFA เพื่อซื้อบ้านในรัฐมิชิแกน โดยระบุว่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แต่ต่อมาเธอได้กู้เงินอีกครั้งหนึ่งเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมในแอตแลนตา และแจ้งว่าเป็นที่อยู่อาศัยหลักเช่นกัน
ทั้งนี้ พูลทีระบุว่า คุกให้ข้อมูลเท็จดังกล่าวเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสิทธิพิเศษด้านอัตราดอกเบี้ยที่ FHFA มอบให้สำหรับที่อยู่อาศัยหลักเพียงแห่งเดียวเท่านั้น