ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ (27 ส.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นจากการร่วงลงในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาความเสี่ยงทางการเมืองในฝรั่งเศส และรอการเปิดเผยผลประกอบการของ Nvidia ผู้นำด้านชิปปัญญาประดิษฐ์ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 554.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.56 จุด หรือ +0.10%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,743.93 จุด เพิ่มขึ้น 34.12 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,046.21 จุด ลดลง 106.66 จุด หรือ -0.44% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,255.50 จุด ลดลง 10.30 จุด หรือ -0.11%
ดัชนี STOXX 600 ฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงหนักที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในยุโรปยังคงปิดในแดนลบ
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดตัวขึ้น 0.4% จากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากถูกเทขายเมื่อวันอังคารจากความกังวลว่าอาจมีการล้มรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรูในเดือนหน้า โดยเมื่อวันจันทร์ พรรคฝ่ายค้านหลัก 3 พรรคประกาศว่าจะไม่สนับสนุนบายรูในการลงมติไว้วางใจ ซึ่งเขากำหนดไว้วันที่ 8 ก.ย. เกี่ยวกับแผนการตัดลดงบประมาณครั้งใหญ่
หากรัฐบาลฝรั่งเศสล้ม ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทันที โดยขอให้บายรูทำหน้าที่รักษาการ หรือจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดได้สะท้อนปัจจัยเสี่ยงไปแล้วมาก โดยเฉพาะหุ้นในประเทศ เช่น หุ้นธนาคาร หุ้นสาธารณูปโภค และหุ้นบริการธุรกิจของฝรั่งเศส แต่คาดว่าความไม่แน่นอนจะยังคงดำเนินต่อไปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
บรรดานักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยผลประกอบการของ Nvidia ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก เพื่อหาสัญญาณใหม่ในการลงทุนด้านเอไอ หลังจากหุ้นเทคโนโลยีที่พุ่งแรงก่อนหน้านี้ชะลอตัวในเดือนส.ค.
ผลประกอบการของบริษัทยุโรปโดยรวมยังแข็งแกร่ง โดยมากกว่า 52% ของบริษัทที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 จนถึงวันอังคารนั้น มีผลประกอบการดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนต้องการประเมินว่าภาษีและความไม่แน่นอนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจเพียงใด แต่ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคของยุโรปยังคงแข็งแกร่ง
หุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่นำตลาดปรับตัวลง โดยลดลง 1.3% อาทิ หุ้น Deutsche Bank ร่วง 3.4% และหุ้น Commerzbank ดิ่งลง 4.9% หลัง Goldman Sachs ปรับลดคำแนะนำการลงทุน
ในทางตรงข้าม หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือนปรับตัวขึ้น 1.5% นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราซึ่งขยับขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยหุ้น Swatch พุ่งขึ้น 6.3% มากที่สุดในดัชนี STOXX 600 หลังซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่าสามารถชดเชยผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ได้บางส่วนด้วยการปรับขึ้นราคาสินค้า
หุ้น DiaSorin ร่วงลง 5.8% มากที่สุดใน STOXX 600 หลัง J.P. Morgan แนะนำลดการลงทุนในหุ้นกลุ่มตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ของอิตาลีรายนี้
ส่วนหุ้น JD Sports พุ่งขึ้น 3.6% จากสัญญาณยอดขายในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้น