ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าร่วงลงกว่า 2% ในวันนี้ (1 ก.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากหุ้นในกลุ่มชิปถูกเทขายอย่างหนัก เนื่องจากคาดว่าแนวโน้มการแข่งขันในอุตสาหกรรม AI จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 41,849.82 จุด ลดลง 868.65 จุด หรือ -2.03%
ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดทำการซื้อขาย และทรุดตัวลงไปเกือบ 900 จุดในชั่วขณะ อันเนื่องมาจากหุ้นใหญ่ในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ โตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) และแอดวานเทสต์ (Advantest) ได้เผชิญแรงเทขายอย่างหนัก ภายหลังจากดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
การปรับตัวลงอย่างหนักในครั้งนี้มีชนวนเหตุมาจากการที่หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) ได้รายงานเมื่อวันศุกร์ (29 ส.ค.) ว่า บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิงส์ (Alibaba Group Holding Ltd.) ของจีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาชิป AI ของตนเอง ซึ่งจะส่งผลให้การแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมนี้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และกระทบต่อบริษัทชั้นนำอย่างอินวิเดีย (Nvidia Corp.) โดยตรง
ขณะเดียวกัน ราคาทองคำในประเทศซึ่งอ้างอิงโดยบริษัท ทานากะ พรีเชียส เมทัล เทคโนโลยีส์ (Tanaka Precious Metal Technologies Co.) ได้พุ่งทะยานขึ้นสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสกุลเงินเยน โดยมีราคาอยู่ที่ 18,001 เยนต่อกรัม นับเป็นครั้งแรกที่ราคาทะลุหลัก 18,000 เยน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ยังคงคุกรุ่น