ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดปรับตัวลงในวันนี้ (1 ก.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ จากความกังวลว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะทวีความรุนแรงขึ้น โดยในระหว่างวันดัชนีได้ร่วงลงไปกว่า 2%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 42,188.79 จุด ลดลง 529.68 จุด หรือ -1.24% ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.
หุ้นลบนำตลาดได้แก่ กลุ่มโลหะนอกกลุ่มเหล็ก กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดในแดนลบและร่วงลงอย่างหนักเกือบ 900 จุดในช่วงสั้น ๆ โดยมีแรงเทขายอย่างหนักในหุ้นกลุ่มชิปซึ่งเป็นหุ้นที่มีน้ำหนักต่อดัชนีสูง เช่น แอดวานเทสต์ (Advantest) และโตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) หลังจากดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญของสหรัฐฯ ปรับตัวลงอย่างหนักเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว
การปรับตัวลงดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการที่หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) รายงานเมื่อวันศุกร์ (29 ส.ค.) ว่า บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิงส์ (Alibaba Group Holding Ltd.) ของจีน ได้พัฒนาชิป AI ของตนเองขึ้นมา
มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ กล่าวว่า "อินวิเดีย (Nvidia) กำลังเสี่ยงที่จะสูญเสียความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้" และ "ยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาด AI ด้วย"
อิชิกาวะยังกล่าวเสริมว่า ผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดของบริษัท มาร์เวลล์ เทคโนโลยี (Marvell Technology Inc.) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ ก็เป็นอีกปัจจัยที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ขณะเดียวกัน ราคาทองคำในประเทศซึ่งอ้างอิงโดยบริษัท ทานากะ พรีเชียส เมทัล เทคโนโลยีส์ (Tanaka Precious Metal Technologies Co.) ได้พุ่งทะยานขึ้นสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสกุลเงินเยน โดยมีราคาอยู่ที่ 18,123 เยนต่อกรัม นับเป็นครั้งแรกที่ราคาทะลุหลัก 18,000 เยน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ยังคงคุกรุ่น