ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สามในวันนี้ (8 ก.ย.) หลังจากนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งจุดประกายความหวังในหมู่นักลงทุนว่าจะมีการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจชุดใหม่เข้ามาพลิกฟื้นประเทศ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 43,643.81 จุด เพิ่มขึ้น 625.06 จุด หรือ +1.45%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มโลหะนอกกลุ่มเหล็ก และกลุ่มเภสัชภัณฑ์
บรรดาโบรกเกอร์ให้ข้อมูลว่า ในช่วงหนึ่งของการซื้อขายวันนี้ ดัชนีทะยานขึ้นไปกว่า 800 จุด โดยมีหุ้นกลุ่มส่งออกอย่างเครื่องจักรกลและอิเล็กทรอนิกส์เป็นหัวหอกสำคัญ ปัจจัยหนุนมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อผลกำไรของบริษัทส่งออกเมื่อแปลงรายรับจากต่างประเทศกลับมาเป็นเงินเยน
มาซาฮิโระ อิชิคาวะ หัวหน้านักวางกลยุทธ์ตลาดของบริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ ให้ความเห็นว่า การประกาศลาออกของอิชิบะทำให้นักลงทุนคาดหวังมากขึ้นว่ารัฐบาลจะหันมาใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นในวันนี้
อย่างไรก็ดี อิชิคาวะเตือนว่า ตลาดคงไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ด้วยความคาดหวังเรื่องนโยบายการคลังเพียงอย่างเดียว เนื่องจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยภายใต้ผู้นำคนใหม่จะต้องเผชิญความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างข้อเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการให้กระตุ้นเศรษฐกิจ กับท่าทีของสมาชิกคนสำคัญในพรรครัฐบาลที่ยังคงไม่เห็นด้วยกับการลดภาษีการบริโภค
ทั้งนี้ บรรยากาศการลงทุนได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลที่รัฐบาลเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงประจำไตรมาสเม.ย.-มิ.ย. ขยายตัวถึง 2.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับเพิ่มขึ้นจากรายงานเบื้องต้นที่คาดการณ์ไว้เพียง 1.0%
ถึงกระนั้น นักลงทุนบางส่วนยังคงชะลอการซื้อขาย เนื่องจากยังกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังข้อมูลการจ้างงานเดือนส.ค. บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงาน