ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่บวกต่อเนื่องมา 3 วันทำการ กลับมาปิดลบในวันนี้ (9 ก.ย.) สาเหตุหลักมาจากนักลงทุนพากันเทขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังจากที่ดัชนีพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเช้า ก่อนหน้านี้ ตลาดคึกคักเพราะนักลงทุนคาดหวังว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมาแทนชิเงรุ อิชิบะ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 43,459.29 จุด ลดลง 184.52 จุด หรือ -0.42%
หุ้นลบนำตลาดได้แก่ กลุ่มโลหะนอกกลุ่มเหล็ก กลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า รวมถึงกลุ่มเหมืองแร่
ในช่วงเช้า มีช่วงหนึ่งที่ดัชนีนิกเกอิพุ่งทะลุ 44,000 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ปัจจัยหนุนมาจากกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นชุดใหม่จะทุ่มงบประมาณและลดภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นิกเกอิยังได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปิดบวกเมื่อคืนก่อน เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะลดดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ หลังจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ เดือนส.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด
แต่สุดท้ายตลาดก็ต้านแรงเทขายไม่ไหวและพลิกกลับมาติดลบ นักลงทุนรีบขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีนิกเกอิวิ่งขึ้นมาแล้วกว่า 1,700 จุดใน 3 วันทำการ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มส่งออกยังถูกกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกระทบกำไรเมื่อแปลงกลับเป็นเงินเยน
มากิ ซาวาดะ นักกลยุทธ์ในแผนกเนื้อหาการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ ให้ความเห็นว่า "แม้จะมีข่าวออกมาว่าใครจะลงชิงตำแหน่งผู้นำพรรค แต่ก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนต่อนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ได้"
ซาวาดะยังเสริมอีกว่า "ตราบใดที่ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้นำคนต่อไป และนโยบายจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร การที่หุ้นจะขึ้นต่อด้วยความคาดหวังอย่างเดียวคงเป็นไปได้ไม่นาน"