ดัชนีดาวโจนส์พลิกพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่ซบเซา
ณ เวลา 00.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 45,633.83 จุด บวก 118.88 จุด หรือ 0.26%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยรายงานประจำปีของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรฉบับปรับปรุงใหม่สำหรับช่วงเวลา 1 ปีนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2567-เดือนก.พ.2568 ในวันนี้
รายงานดังกล่าวพบว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีการจ้างงานต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับตัวเลขที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และคุณภาพของการเก็บรวบรวมข้อมูลการจ้างงานของกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ รายงานฉบับปรับปรุงใหม่ดังกล่าวระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานลดลง 911,000 ตำแหน่งจากการรายงานในเบื้องต้นของสำนักงานสถิติแรงงาน ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2545
แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้สะท้อนภาวะตลาดแรงงานในปัจจุบัน เนื่องจากมีการย้อนหลังไปมากถึง 1 ปีครึ่ง แต่ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และส.ค. บ่งชี้การเติบโตเฉลี่ยของการจ้างงานเพียง 29,000 ตำแหน่งต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าระดับที่ต้องการในการรักษาอัตราการว่างงานให้คงที่
นักลงทุนพากันคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมที่เหลือในปีนี้ และเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย. และให้น้ำหนัก 11.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว จากเดิมที่ไม่เคยให้น้ำหนักต่อคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในการประชุมเดือนต.ค.และธ.ค.