ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานในวันนี้
ณ เวลา 20.32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 45,648.30 จุด บวก 157.38 จุด หรือ 0.35%
นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า แม้ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้นจากเดือนก.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนมองว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นในวันนี้จะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 89.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในการประชุมเดือนต.ค.และธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก พุ่งขึ้น 27,000 ราย สู่ระดับ 263,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.2564 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนส.ค.ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่สูงกว่าระดับ 2.7% ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% และสูงกว่าระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับ 3.1% ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับ 0.3% ในเดือนก.ค.