ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (12 ก.ย.) แต่ดัชนี Nasdaq ปิดทำสถิติสูงสุดในการซื้อขายที่ผันผวน โดยได้แรงหนุนจากหุ้น Microsoft ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า (16-17 ก.ย.) ซึ่งมีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหลังจากมีการชะลอตัวในตลาดแรงงาน
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,834.22 จุด ลดลง 273.78 จุด หรือ -0.59%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,584.29 จุด ลดลง 3.18 จุด หรือ -0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,141.10 จุด เพิ่มขึ้น 98.03 จุด หรือ +0.44%
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.6%, ดัชนีดาวโจนส์บวกเกือบ 1% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลังจาก Oracle ประกาศคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งเมื่อวันอังคาร
หุ้น 7 จากทั้งหมด 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดลบ โดยกลุ่มเฮลท์แคร์ลดลงมากสุด 1.13% ตามด้วยกลุ่มวัตถุดิบที่ลดลง 0.97%
การพุ่งขึ้นของหุ้น Tesla และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่น ๆ ช่วยหนุนให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นวันที่ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามตัวทำสถิติสูงสุดตลอดกาล
หุ้น Microsoft บวก 1.8% หลังจากสามารถหลีกเลี่ยงการถูกปรับเป็นจำนวนมากจากสหภาพยุโรปในคดีผูกขาดตลาดด้วยการเสนอขายผลิตภัณฑ์ Office ที่ไม่รวม Teams ในราคาถูกลง
หุ้น Tesla พุ่งขึ้น 7.4% หลังจาก ร็อบบิน เดนโฮล์ม ประธานบอร์ด ปฏิเสธความกังวลที่ว่า กิจกรรมทางการเมืองของ อีลอน มัสก์ จะกระทบยอดขาย และยืนยันว่ามหาเศรษฐีมัสก์ยังคงมีบทบาทสำคัญในบริษัท หลังจากเข้าไปเกี่ยวข้องกับทำเนียบขาวเป็นเวลาหลายเดือน อย่างไรก็ตาม หุ้น Tesla ยังคงติดลบ 2% ในปี 2568
หุ้น Goldman Sachs และหุ้น Sherwin-Williams ปรับตัวลง และกดดันให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดลดลงเล็กน้อย
หุ้น Warner Bros Discovery พุ่งขึ้น 17% ต่อเนื่องจากวันพุธ หลังมีรายงานว่า Paramount Skydance เตรียมยื่นข้อเสนอซื้อกิจการบริษัทสื่อที่กำลังประสบปัญหา
หุ้นผู้ผลิตวัคซีนร่วงลง หลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ วางแผนเชื่อมโยงวัคซีนโควิด-19 กับการเสียชีวิตของเด็ก 25 คน โดยหุ้น Moderna ร่วง 7.4% ส่วนหุ้น Pfizer และ Novavax ดิ่งลงมากกว่า 3%
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า หลังจากตลาดหุ้นพุ่งแรงเมื่อวันพฤหัสบดี นักลงทุนจึงชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูท่าทีของตลาด
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองในเดือนก.ย. เนื่องจากผู้บริโภคมองเห็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อภาวะธุรกิจ ตลาดแรงงาน และเงินเฟ้อ
หลังจากสัญญาณตลาดแรงงานอ่อนแอลง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสะท้อนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงรวม 0.75% ภายในสิ้นปีนี้
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของเฟดในวันอังคารและพุธหน้า โดยนักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หลังจากข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ถึงการจ้างงานที่ซบเซามายาวนานและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง